เปิดโปงเบื้องหลังตลาดค้างาช้างในฮ่องกง
ฮ่องกง (23 ตุลาคม 2015) ตลาดค้างาช้างที่ถูกกฎหมายในฮ่องกง กำลังบั่นทอนความพยายามในการค่อยๆ ยุติการค้างาที่จีนและสหรัฐฯ เพิ่งจะประกาศร่วมกันเมื่อเร็วๆ นี้
ขณะที่จีนและสหรัฐ ให้คำมั่นครั้งสำคัญร่วมกันว่าจะค่อยๆ ดำเนินมาตรการเพื่อยุติการค้างาช้างในประเทศ รัฐบาลฮ่องกงได้ปฏิเสธแนวทางดังกล่าว เจ้าหน้าที่จากกรมการเกษตร ประมงและการอนุรักษ์ฮ่องกง ยืนยันว่า รัฐบาลฮ่องกงมีกลไกควบคุมการค้างาช้างอย่างเข้มงวด
แต่รายงานชิ้นใหม่โดย WildAid องค์กรพันธมิตร African Wildlife Foundation ประกอบกับภาพจากวิดีโอแอบถ่ายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เผยให้เห็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าผู้ค้างาช้างทำผิดกฎหมาย โดยนำงาช้างแอฟริกาที่ลักลอบเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เติมลงในสต๊อคงาช้างที่ได้มาอย่างถูกกฎหมายก่อนปี 1989 นอกจากนั้นยังชี้แนะวิธีการนำงาช้างที่ซื้อไปออกนอกฮ่องกงให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
WildAid และ African Wildlide Foundation เรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงประกาศห้ามการซื้อขายงาช้าง และจัดให้มีการสอบสวนอย่างอิสระเพื่อแก้ไขช่องโหว่ในกฎหมายและปัญหาการลักลอบนำเข้างาช้างผิดกฎหมาย
“การคอรัปชั่น ความพยายามละมิดกฎหมายที่ปรากฎในวิดีโอและรายงานชิ้นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ฮ่องกงล้มเหลวที่จะหยุดยั้งขบวนการอาชญากรข้ามชาติซึ่งยังเห็นว่าที่นี่เป็นแหล่งปลอดภัยในการลักลอบนำเข้างาช้างจากแอฟริกา” ปีเตอร์ ไนทส์ กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง WildAid กล่าว “ตัวอย่างที่เราได้เห็นมาในอดีตชัดเจนแล้วว่า ตลาดค้างาช้างที่ถูกฎหมาย เป็นเพียงฉากบังหน้าให้กับการค้าผิดกฎหมายเท่านั้น ซึ่งกระตุ้นปัญหาการล่าช้างเอางาหลายประเทศในทวีปแอฟริกา หากจะเห็นช้างมีชีวิตรอดต่อไป ฮ่องกงต้องแสดงท่าทีเช่นเดียวกับจีน และสหรัฐฯ ยุติตลาดค้างาช้างของตนเองด้วย”
แพทริก เบอร์กิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร African Wildlife Foundation บอกว่า “รายงานชิ้นใหม่เปิดโปงว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะควบคุมการค้างาช้าง เพียงแค่การออกใบอนุญาตซื้อขาย และความหละหลวมในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะผลประโยชน์ในธุรกิจนี้มันสูงมาก หากฮ่องกงยุติการค้างาช้างทุกรูปแบบ ขบวนการลักลอบนำเข้างาช้างในฮ่องกงก็จะไม่มีที่ซ่อนตัว”
ฮ่องกง ยังคงเป็นศูนย์กลางการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าหลายชนิด ไม่ใช่แค่งาช้าง โดยหน่วยงานที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย หละหลวมในการตรวจสอบสินค้าที่เข้ามาในฮ่องกงเป็นปริมาณมาก
ปีเตอร์ ไนทส์ กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง WildAid (ซ้าย), หลี่ ปิงปิง ดาราชาวฮ่องกง (กลาง) อลิซาเบธ ควอท สมาชิกสภานิติบัญญติฮ่องกง (ขวา) (ภาพโดย Alex Hofford)
ภาพวิดีโอแอบถ่ายโดยนักสืบอิสระที่ทำให้กับ WildAid องค์กรพันธมิตร African Wildlife Foundation และ WWF Hong Kong แสดงให้เห็นหลักฐานว่า ผู้ค้างาในฮ่องกงมีส่วนละเมิดกฎหมาย โดยผู้ค้ารายหนึ่งยอมรับว่า มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะ “นำงาช้างที่ลักลอบเข้ามาจากแอฟริกาเติมเต็มสต๊อคงาที่ได้มาอย่างถูกกฎหมาย”
ผู้ค้า : “ตอนที่การค้างาช้างระหว่างประเทศถูกแบนเมื่อปี 1989 เราขึ้นทะเบียนจำนวนงาช้างที่เราครอบครองต่อรัฐบาล แต่การบันทึกนั้นไม่ได้ลงรายละเอียด รัฐบาลบันทึกแต่น้ำหนักของงาช้าง และผลิตภัณฑ์งาแต่ละชิ้น เมื่อฉันขายผลิตภัณฑ์งาช้างได้ 1 ชิ้น ฉันก็จะเอางาช้างที่ลักลอบเข้ามา ไปทำเป็นผลิตภัณฑ์เหมือนชิ้นที่ขายออกไป เพื่อเติมสต๊อคของฉันอีกครั้ง เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้”
นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 ถึง สิงหาคม 2015 นักสืบอิสระไปที่ร้านขายงาช้าง 94 แห่งในฮ่องกง ในจำนวนนี้ มีเพียงแค่ 1 ร้านเท่านั้นที่แสดงใบอนุญาตครอบครองงาช้างให้ลูกค้าเห็นอย่างชัดเจน ขณะที่ใบอนุญาตครอบครองของร้านอื่นๆ มักจะคลุมเครือ เสียหาย หมดอายุ หรือ ถูกแก้ไขจำนวนสต็อคงาช้างที่ผู้ค้าครอบครอง